พิธีเปิด Kick Off ตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร โดยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และตลาดไท

กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และตลาดไท ร่วมลงนามความเข้าใจเปิด “ตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร” ยกระดับให้เป็นมากกว่าแหล่งซื้อขายวัตถุดิบสมุนไพรคุณภาพ สู่เวทีเชื่อมโยงห่วงโซ่สมุนไพรอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพื่อร่วมสร้างนวัตกรรมและยกระดับสมุนไพรไทยสู่มาตรฐานสากล  โดยคาดการณ์ว่าจะสามารถผลักดันสร้างมูลค่าสมุนไพรในตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพรได้มากกวา 6,000 ล้านบาทต่อปี

กระทรวงสาธารณสุขมุงมั่นผลักดันการใช้สมุนไพรควบคู่กับการแพทย์แผนปัจจุบันอย่างจริงจัง  เพื่อเพิ่มทางเลือกในการดูแลสุขภาพของประชาชน และสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสาธารณสุขของประเทศ จึงได้เล็งเห็นความสำคัญของการจัดตั้ง “ตลาดกลางวัตถุดิบสมุนไพร”ที่จะไม่เพียงเป็นแหล่งซื้อขายวัตถุดิบสมุนไพรที่มีคุณภาพ แต่เป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนห่วงโซ่อุปทานสมุนไพรอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกร แพทย์แผนไทย ผู้ประกอบการ ผู้แปรรูป และนักวิจัย เพื่อร่วมกันสร้างนวัตกรรมและยกระดับสมุนไพรไทยสู่มาตรฐานสากล

ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และบริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด (ตลาดไท) ได้ร่วมกันดำเนินโครงการตลาดสมุนไพรสด และเครื่องเทศสดปลอดภัย บนพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร เพื่อช่วยเกษตรกรให้มีพื้นที่จำหน่ายสมุนไพร และช่วยกระจาย
สินคาสมุนไพรสดที่มีมาตรฐานปลอดภัย ทำให้ในปัจจุบันมีปริมาณสินค้าสมุนไพรสด และเครื่องเทศสดเข้าสู่ตลาดไทมากถึง 210,366 ตัน คิดมูลค่ามากกว่า 2,300 ล้านบาทต่อปี และคาดว่าตลาดกลางสมุนไพรไทย ที่เกิดขึ้นนี้จะผลักดันให้มีมูลค่าสมุนไพรในตลาดกลางมากกวา 6,000 ล้านบาทตอปี นโยบายของกระทรวง ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นให้การแพทยแผนไทยเป็นทางเลือกหลักในการดูแลสุขภาพของประชาชน  แต่ยังคงผลักดันให้สมุนไพรไทยมีบทบาทในเชิงเศรษฐกิจควบคู่ไปกับบทบาทด้านสุขภาพอย่างสมดุลและยั่งยืน

จากข้อมูลปัจจุบัน พบว่า เกษตรกรจำนวนมากหันมาสนใจปลูกพืชสมุนไพรกันมากขึ้น โดยในปี 2567 มีพื้นที่ปลูกสมุนไพรกว่า 1,233,240 ไร่ และเกษตรกรประมาณ 526,422 ราย และมีพื้นที่ปลูกสมุนไพรที่ได้มาตรฐาน GAP และเกษตรอินทรีย์ รวมจำนวน 84,792 ไร่ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีพื้นที่ปลูก 1,151,494
ไร่ และเกษตรกร ประมาณ 369,351 ราย และมีพื้นที่ปลูกสมุนไพรที่ได้มาตรฐาน GAP และเกษตรอินทรีย์ รวมจำนวน 64,225 ไร่

การเปิดตลาดในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสในการเพิ่มกลุ่มผู้ขายวัตถุดิบสมุนไพรรายใหม่ เพิ่มความหลากหลายของสินค้าสมุนไพร และขยายตลาดกลุ่มผู้ซื้อให้มากยิ่งขึ้น และจะเป็นตลาดกลางสินค้าการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตรขนาดใหญที่สุดในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บนพื้นที่ 542 ไร่ ที่สำคัญตลาดกลางแห่งนี้จะไม่เพียงเป็นศูนยกลางของการซื้อขาย แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนระบบสุขภาพไทยผ่านการใช้วัตถุดิบสมุนไพรที่มีคุณภาพ  ตลอดจนเป็นเวทีในการผลักดันสมุนไพรไทยสู่มาตรฐานสากลและสามารถสร้างเศรษฐกิจให้แก่ประเทศได้”