ชี้ช่องรวยช่วยท่องเที่ยว พาบุก จ.ปทุมธานี ที่ใครไปแล้วห้ามพลาดกับ “ร้านยำแซ่บตะแคงลิ้น” สารพัดยำทุกอย่าง 20 บาท ที่รับรองได้เลยว่าแซ่บลืมโลกแน่นอน !!
“ร้านยำแซ่บตะแคงลิ้น” เจ้าของ คือ คุณสุตรา จันตะโส (น้องพลอย) และคุณสุรีรัตน์ จันตะโส (แม่ตูน) เล่าถึงจุดเริ่มต้นที่มาของร้านยำว่า หลังจากลูกสาวเรียนปริญญาตรี ก็เริ่มหางานทำแต่หาเท่าไหร่ก็ยังไม่ได้เสียที ด้วยรูปลักษณ์น้องพลอยที่ค่อนข้างเจ้าเนื้อทำให้ถูกนายจ้างปฏิเสธ เธอจึงได้มาปรึกษากับ คุณแม่ตูน ว่าจะทำอย่างไรดี ?? คุณแม่ก็ให้กำลังใจและบอกว่าไม่เป็นไร แม่จะเป็นคนสร้างอาชีพให้เอง
โดยเริ่มจากการเปิดร้านยำแต่ขายในราคาเริ่มต้น 50 บาท ผลตอบรับยังไม่ดีเท่าที่ควร บังเอิญวันหนึ่งได้ชมรายการทีวีช่องหนึ่ง ที่นำเสนอร้านขายยำจานละ 20 บาท จุดนี้ทำให้เราเกิดความคิดว่า ‘ในเมื่อเขาขายได้แล้วทำไมเราจะขายไม่ได้’ จึงเริ่มปรับราคาเมนูจาก 50 บาท เหลือ 20 บาท ทุกจาน และทุกเมนู ปัจจุบันลูกค้าให้การตอบรับดีมาก ขายได้มากกว่า 1,000 จานต่อวัน
ความโดดเด่นของ “ร้านยำแซ่บตะแคงลิ้น” อยู่ที่สูตรเด็ดน้ำยำที่ตกทอดกันมารุ่นสูรุ่น มี 3 รสชาติให้เลือกตามชอบ ทั้งน้ำยำสูตรปรกติ น้ำยำปลาร้า และน้ำยำซีฟู้ด สำหรับน้ำยำปลาร้านั้นเป็นสูตรใหม่ที่เราคิดค้นขึ้นเอง ลูกค้าชื่นชอบมาก ในร้านมีเมนูให้เลือกกว่า 100 เมนู โดยแบ่งเป็น 3 น้ำยำ ได้แก่ น้ำยำสูตรปกติ น้ำยำปลาร้า และน้ำยำซีฟู้ด ส่วนวัตถุดิบก็เลือกใช้ของคุณภาพดี ทุกอย่างจะต้องสดใหม่ ทำเสิร์ฟจานต่อจาน ที่สำคัญคือทุกจานราคาเพียง 20 บาท เมนูเด็ดยอดนิยม คือ ยำแซลมอน, ยำกุ้งสด, ยำปูม้า, ยำหอยแครง เป็นต้น นอกจากนี้ทางร้านยังขายเฉพาะน้ำยำในราคาขวดละ 59 บาท ให้ลูกค้าไปยำทานเองที่บ้าน หรือใครที่สนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายน้ำยำก็สามารถติดต่อเข้ามาได้ทันที
และในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ คุณแม่ตูน บอกว่า ใครที่กำลังมองหาอาชีพ หรือ อยากมีอาชีพสร้างรายได้ คุณแม่จะสอนสูตรให้ฟรี ในทุกขั้นตอนแบบไม่มีกั๊ก เรียนรู้จบสามารถเปิดร้านขายได้ทันที “ร้านยำแซ่บตะแคงลิ้น” อยู่ที่ เส้นปทุมธานี-สายใน ใกล้วัดน้ำวน ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00 – 20.00 น.
อิ่มอร่อยจาก “ร้านยำแซ่บตะแคงลิ้น” อย่าพลาดไปเที่ยวเช็คอินกันต่อที่ “ตลาดน้ำสามโคก” ชุมชนเก่าติดริมน้ำเจ้าพระยา เสน่ห์ของตลาดแห่งนี้ คือ ความเรียบง่าย ความเป็นกันเองของชาวบ้าน มีของอร่อยให้เลือกทานมากมาย รวมไปถึงผลผลิตทางการเกษตรของชุมชนมาจำหน่ายอีกด้วย
สำหรับใครที่อยากสักการะทำบุญแนะนำต้องมา “วัดโบสถ์” เป็นวัดเก่าแก่โบราณในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีหลวงพ่อโต และ หลวงพ่อโสธร องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกหนึ่งวัดที่มาปทุมธานีแล้วต้องมาเยือนคือ “วัดเจดีย์หอย” ความโดดเด่นของวัดนี้ คือ เจดีย์หอยขนาดสูง สร้างความตื่นตาให้แก่ผู้พบเห็นอันมาก มีอยู่ด้วยกัน 2 องค์ องค์แรกอยู่ปากทางเข้าวัด องค์ที่สองอยู่ในบริเวณวัด ให้กราบสักการะขอพร
ส่วนใครที่ชอบจิบเครื่องดื่มชิล ๆใกล้ชิดธรรมชาติ ต้องไปที่ “G Farm at Sam Khok” คาเฟ่ในบรรยากาศรื่นรมย์ ที่จะให้คุณสนุก เรียนรู้ ครบทุกสไตล์ ใครที่ต้องการหาที่พัก “เดอะไพน์ รีสอร์ท” ก็น่าสนใจ สถานที่พักและผจญภัยใกล้กรุงเทพฯ สัมผัสกับกิจกรรมผจญภัยสุดมันส์กับ 20 ฐานกิจกรรม ที่ไม่เหมือนใครท่ามกลางธรรมชาติ หากไม่อยากหยุดสนุกลุยกันต่อที่ ‘สวนสนุกดรีมเวิลด์” จัดเต็มให้สุดเหวี่ยงกับเครื่องเล่นสุดมันท้าทายความกล้า มาถึงย่านรังสิตทั้งทีต้องไปกินเมนูขึ้นชื่อ”ก๋วยเตี๋ยวเรือ” พร้อมกันนี้ยังอิ่มหนำกับร้านอาหารให้เลือกอร่อยมากมาย ต้องมาเดินเพลิน ๆที่ “ตลาดน้ำเมืองรังสิต”
ส่วนคุณพ่อคุณแม่ที่มองหาแหล่งเรียนรู้นอกบ้านให้น้อง ๆหนู ๆช่วงหยุดยาวแบบนี้ “องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ” ก็เป็นศูนย์เรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ดี เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ หยุดวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 09.30-16.00 น. ที่ปทุมธานียังมีตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรครบวงจรใหญ่ที่สุดในอาเซียน ในนาม “ตลาดไท”ใครที่ต้องการซื้อสินค้าเกษตรแบบเหมาเข่งราคามิตรภาพต้องไม่พลาด !!
ครบ 10 จุดสถานที่เช็คอินปทุมธานี แต่ละที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใครที่ยังไม่ได้ไปถือว่าน่าเสียดายมาก มาปุทมฯทั้งที.. แล้วต้องไปให้ได้